Translate
วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555
2PM‘s Nichkhun was nominated in Thailand’s Kerd Awards
Popular Hallyu group 2PM‘s Nichkhun was nominated in Thailand’s Kerd Awards.
The Kerd Awards is an award ceremony that is led by Thailand’s popular entertainer and television host, Woody. There are seven award categories: Born to grasp the main scene, Born to be be famous, Born to be a comedian, Born to pop, Born to be giver, Born to be together and, Born to be hot. Thailand’s most influential people were nominated in the categories and Thai fans will be able to vote in each category through SMS.
Fans of 2PM will not find it difficult to see why Nichkhun was nominated for such an award, as he has taken part in numerous activities as a part of 2PM and as an individual. He has endorsed numerous products in Thailand and even acted in a movie recently. On March 29th, Nichkhun will be attending the event in Thailand, and will be returning to Korea after the ceremonies take place on the 30th.
In regards to the nomination, Nichkhun commented “I am very nervous and overwhelmed that I am not only invited to such a large award ceremony, but also nominated for an award. I am very thankful for the nomination and it is a great honor. I would also like to thank my fans who always support me. Thank You.”
For those of you who would like to know more about the Kerd Awards, you can check out the details here.
In related news, 2PM is currently preparing for their fan meeting that will take place on April 1st.
วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555
[Pics&Fancam] Nichkhun@Incheon leaving for Bangkok
[Pics&Fancam] Nichkhun@Incheon leaving for Bangkok for Kerd Award
[Fancam] 120329 Nichkhun(닉쿤) : Incheon Airport to bangkok (@Udie624)
Kerd Awards
วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555
NichKhun
NichKhun : Twitter Updates
Hi world! How are you doing?
สวัสดีครับชาวโลก! เป็นยังไงกันบ้างครับ?
The more you know is the more you know that you don’t know. You know?? O_o
มากกว่าที่คุณรู้คือ คุณไม่รู้ คุณรู้ไหมครับ?? O_o
วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555
[บทสัมภาษณ์] Arena Homme - นิชคุณ
[บทสัมภาษณ์] Arena Homme - นิชคุณ
Tuesday, March 27 2012 Written by Offogato
English Ver. / Kor-Eng: Buckme@2pmalways | Scans : danjisoo's blog
DIORAMA
credit : http://2pmalways.com
หล่อ เท่ แถมยังอ่อนโยน แม้แต่นิชคุณก็ยังมีเรื่องกดดัน
ผู้สัมภาษณ์ : คนมักจะพูดถึงแต่รูปร่างหน้าตาของคุณ
นิชคุณ: ฮ่าฮ่า ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีแต่ผมก็อยากจะโชว์ด้านอื่นๆให้เห็น ในฐานะนักร้องโดยเฉพาะไอดอล ผมได้แต่โชว์ภาพลักษณ์ที่ไตร่ตรองระมัดระวังไว้ก่อนออกมา แต่ผมอยากจะพิสูจน์ให้เห็นว่าผมมีอะไรมากกว่าที่เห็น ผมจึงลองงานด้านการแสดงซึ่งสามารถให้ผมแสดงบทบาทต่างๆออกมาได้
ผู้สัมภาษณ์ : การเป็นไอดอลดูจะเป็นเรื่องที่น่าอึดอัด คงมีบางสิ่งที่ต้องเก็บเงียบเอาไว้
นิชคุณ: ใช่ครับ ในฐานะไอดอลคุณต้องคอยระวังสิ่งที่คุณพูดออกมา และต้องระวังการกระทำด้วย ก็คงรู้สึกอึดอัดเป็นธรรมดา ผมต้องการแสดงตัวตนที่เป็นของผม ความรู้สึกที่แท้จริง แต่สิ่งต่างๆเหล่านั้นก็เป็นเรื่องที่ทนได้ ผมจึงเฉยๆไป
ผู้สัมภาษณ์ : พอรู้สึกรำคาญใจ คุณต้องรู้ว่าวิธีไหนจะทำให้ความรู้สึกนั้นหายไปได้ดีที่สุดด้วย
นิชคุณ : ครับ แต่ผมไม่ใช่คนประเภทที่จะเก็บไว้ในใจ ผมจึงมองว่ามันเป็นงานเป็นสิ่งที่ผมต้องอดกลั้นไว้ ที่จริงผมห่วงอนาคตตัวเองมาก เพราะผมยังเด็กและยังเป็นที่สนใจ ผมจึงอยากทำงานให้เต็มที่แล้วค่อยสนุกทีหลัง นั่นคือสิ่งที่ผมคิดครับ
ผู้สัมภาษณ์ : โลกในอุดมคติของนิชคุณเป็นอย่างไร
นิชคุณ : ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับครอบครัว ถ้าคุณต้องการแต่งงานและมีลูกคุณจำเป็นต้องมีเงิน ดังนั้นผมจึงต้องการหาเงินไว้เยอะๆเพื่อที่ครอบครัวผมจะได้เป็นอยู่อย่าง สะดวกสบาย ผมอยากให้ครอบครัวผมมีความสุข พอผมคิดถึงสิ่งเหล่านี้อารมณ์ผมก็จะดีและทำให้ผมมีความสุขเมื่อได้ทำงาน
ผู้สัมภาษณ์ : ทำไมคุณไม่ค่อยพูดถึงเรื่องดนตรีนักในการสัมภาษณ์ต่างๆ
นิชคุณ : ที่ จริงตอนผมเป็นเด็กผมไม่เคยฝันอยากเป็นนักร้อง ผมขี้อายและไม่กล้าพูดในที่สาธารณะ การร้องเพลงจึงไม่เคยมีอยู่ในความคิดเลย แต่ผมได้มาอยู่กับ 2PM ตอนแรกผมด้อยกว่าคนอื่นทั้งหมด แต่เพราะผมรู้สึกละอายที่เป็นอย่างนั้นผมเลยตั้งใจอย่างหนักมากและเมื่อผม ได้เรียนรู้มากขึ้นความมั่นใจก็มากขึ้นตาม
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วส่วนใหญ่คุณฟังเพลงประเภทไหน
นิชคุณ : ผมไม่ค่อยฟังพวกเพลงฮิพฮอพ ผมมักจะฟังเพลงบัลลาดซึ้งๆ ช่วงนี้ผมชอบฟังเพลงของไมเคิล บูเบล่ เสียงของเขา "หวานซึ้ง" มาก ผมยังชอบเพลงแจ๊ส อย่างเพลง The Way You Look Tonigh ด้วยครับ ส่วนเพลงแด๊นซ์ ผมชอบเพลงของจัสติน ทิมเบอร์เลค? ผมชอบเพลงฟังสบายๆครับ
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วทำไมสาวๆชอบนิชคุณจัง?
นิชคุณ : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าฮ่าฮ่า อาจจะดูน่าขันไปหน่อยแต่เพราะชอบที่หน้าตาผมมั้งครับ? คงไม่ใช่เพราะผมพูดเกาหลีได้ดีหรือเพราะผมดูน่าสนใจเวลาออกรายการทีวี .... แต่ผมมั่นใจในตัวตนที่แท้จริงของผมมากกว่าหน้าตาที่มี ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายผมทำได้ทุกอย่างให้กับคนที่ผมชอบครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณเป็นประเภททุ่มสุดตัวหรือเปล่า?
นิชคุณ : ครับ ถ้าผมตกหลุมรักใคร ก็หมดใจเลยครับ
ผู้สัมภาษณ์ : เสี่ยงนะ
นิชคุณ : ที่จริงก็เหมือนกับเวลาทำงานครับ ผมจริงจังมากๆเมื่อถึงเวลาทำงาน
ผู้สัมภาษณ์ : จริงเหรอ? แต่เวลาออกทีวีคุณดูน่ารักจัง?
นิชคุณ : นิ ชคุณในทีวีกับนิชคุณจริงๆต่างกันนิดหน่อยครับ เวลาอยู่ในทีวี คุณต้องพูดเยอะเข้าไว้ แต่เพราะผมยังพูดเกาหลีได้ไม่เร็วนัก โดยเฉพาะเวลาออกรายการทางทีวีผมจึงออกท่าทางมือไม้โดยไม่รู้ตัว เหมือนใช้ท่าทางร่างกายประกอบการพูดเลยทำให้ดูน่ารัก และคนชอบให้ไอดอลดูน่ารักคิขุ หลายครั้งที่พิธีกรชอบให้ผมขยิบตาและทำหน้าน่ารัก แต่ผมไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมไม่ชอบทำตัวหน่อมแน๊ม ผมอยากให้เห็นว่าเท่ ดูแมนๆมากกว่า เพราะภาษาเกาหลีของผมยังไม่ดีผมเลยทำอะไรมากไม่ได้นอกจากแสดงออกทางท่าทาง ให้ดูน่ารักทางรายการทีวี
ผู้สัมภาษณ์ : คุณอายุ 25 แล้ว (ตามการนับของเกาหลี) ซึ่งอีก 3 ปีก็ถึงปีครบกำหนดเข้ากรมทหารของเกาหลี คุณรู้สึกเป็นแมนที่สุดตอนไหน
นิชคุณ : ตอนออกกำลังกายครับ ผมจริงจังกับการเล่นกีฬา ตอนรายการ We Got Married ผมโชว์ให้เห็นแต่ด้านอ่อนหวานซึ่งน่าเสียดายครับ ถ้าผมได้โชว์ด้านชอบการแข่งขันเอาจริงเอาจังออกมาได้ คนคงได้มองผมต่างออกไปบ้าง
ผู้สัมภาษณ์ : จริงเลย คุณดูอ่อนโยน เลยเป็นการยากที่จะนึกถึงอีกด้านของคุณ ด้านอ่อนโยนบางทีอาจดูน่าเบื่อได้
นิชคุณ : แล้ว ก็เสี่ยงมากด้วยครับ ผมต้องคอยระวังคำพูดและการกระทำของผม ในทางตรงกันข้ามแทคยอนสามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นของเขาได้ ตอนแรกผมพูดไม่ค่อยได้เลยค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับเพื่อนในวงคนอื่นๆ ผมเลยดูใจดีกว่าแต่จะให้เปลี่ยนบุคลิกแบบฉับพลับก็คงยาก ผมจึงอยากเปลี่ยนทีละนิด อาศัยงานด้านการแสดงที่จะแสดงให้เห็นอีกด้านของผมออกมา
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วบทแบบไหนที่อยากจะเล่น?
นิชคุณ : ผมอยากจะเล่นบทร้ายๆ ไม่เชิงเป็นตัวโกงแต่บทแบบ bad boy หรือ playboy คงจะสนุกดีถ้าผมได้แสดงบทอย่างวอนบินในเรื่อง Ahjussi ครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ได้ยินมาว่าค่อนข้างยากนะ
นิชคุณ : ฮ่าฮ่า จริงเหรอครับ
ผู้สัมภาษณ์ : รู้สึกว่าการได้อยู่คนเดียวในช่วงอายุยี่สิบกว่าๆสบายกว่าไหม
นิชคุณ : ผมชอบที่ได้อยู่กับครอบครัวมากกว่าครับ ถ้าผมได้กลับประเทศไทยเพื่อไปทำงาน คุณแม่จะเป็นคนมาหาผม ผมก็ได้รับประทานอาหารกับครอบครัวหลังจากเสร็จงาน จึงดูเหมือนว่าผมได้เจอครอบครัวบ่อยกว่าเพื่อนคนอื่นๆ พ่อแม่พวกเขาอยู่ที่เกาหลีแต่ไม่สามารถมาหาพวกเขาได้บ่อย แต่เพราะผมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองพอผมกลับไปไทยทีพ่อแม่ก็จะมาหาผมครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าสมาชิกคนอื่นๆในวง คงเพราะคุณอยู่ด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก คุณมีความคิดเป็นผู้ใหญ่อย่างนี้มาก่อนหรือเปล่า?
นิชคุณ : ตอน เด็กๆผมไม่ค่อยเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่และสร้างปัญหาปวดหัวให้พวกท่าน ถ้าทานบอกให้ทำอะไรผมก็ไม่ทำ แต่พออายุ 12 ปี ผมได้ไปเรียนที่นิวซีแลนด์อยู่โรงเรียนประจำ เมื่อต้องมาอยู่ตัวคนเดียวที่ต่างบ้านต่างเมืองผมก็ทำอะไรผิดๆหลายอย่าง พอได้โตขึ้นผมก็เข้าใจว่าสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เคยสอนไว้มันถูกทุกอย่างเลย ครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ในวันๆคุณมีวิธีผ่อนคลายอย่างไร
นิชคุณ : ผม เล่นเกมในไอแพด อ่านหนังสือ ตอนนี้ผมอ่านหนังสือชื่อว่า Life ของ Paulo Coelho ครับ เป็นหนังสือที่ดีมาก สั้นไปหน่อยแต่ก็ดีมากๆ ทำให้คิดตามได้เยอะ อ่านแล้วช่วยฝึกความคิดมากกว่าได้อ่านธรรมดาครับ
ผู้สัมภาษณ์ : มีบางทีที่รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นบ้างไหม?
นิชคุณ : บางครั้งที่ผมทำงาน ผมจะตั้งใจเกินร้อยเพราะผมเป็นคนจริงจังอยู่แล้ว พอมาคิดถึงทีมงานคนอื่นๆ พวกเขาเหนื่อยมากกว่าเรา ถ้าเรามัวแต่เล่นสนุกมากไปพวกเขาก็จะเหนื่อยมากขึ้น ผมจึงต้องตั้งใจในหน้าที่ของผมและทำให้งานเสร็จไวๆเพื่อที่พวกทีมงานจะได้ทำ งานเสร็จเร็วขึ้นด้วยเช่นกันครับ
ผู้สัมภาษณ์ : รู้สึกต้องรับผิดชอบต่อคนอื่นบ้างไหม?
นิชคุณ : ตอนแรกผมเคยสนุกกับการทำงานด้วยตัวเองคนเดียว แต่ตอนนี้ผมนึกถึงคนอื่นด้วย เราจะเล่นกันแต่พอสมควร เราบอกกันเองว่าเราต้องสุภาพและพร้อมทำงานอย่างตั้งใจเสมอครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณดูเหมือนจะยึดมั่นในหลักการของตัว
นิชคุณ : มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ เพราะผมเป็นคนที่จริงจังกับงาน เวลาถ่ายทำงานโฆษณา พวกไดเร็คเตอร์ต้องจ่ายเงินมากมายเพื่อจ้างพวกเรา เราจึงต้องทำตัวให้สมกับที่เค้าจ้าง ต้องทำงานให้หนัก มันไม่ใช่แค่เรื่องเงินแต่เพราะเขาไว้ใจในตัวเรา เราต้องตอบแทนให้สมกับที่เขาเชื่อมั่นในเราครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณดูเป็นคนซื่อๆอย่างที่เราคาดไว้ เคยโกหกหรือเคยทำอะไรหลบๆซ่อนๆบ้างไหม
นิชคุณ : อืมมมม เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยครับ ตอนเด็กๆทำบ่อยเพราะอยู่ห่างจากพ่อแม่ จริงๆเคยทำอะไรหลายๆอย่าง ฮ่าฮ่า ตอนอยู่ที่โรงเรียนถ้าไม่เข้าเรียนต้องส่งจดหมายอธิบายว่าทำไมถึงขาดเรียน และต้องมีลายเซ็นพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ผมก็จะเป็นคนเซ็นเองและให้เพื่อนส่งครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่
นิชคุณ : ฮ่าฮ่าฮ่า ก็มีเรื่องอื่นๆด้วยครับ แต่ผมไม่ใช่เด็กไม่ดีอะไร ผมไม่อยากทำอะไรให้พ่อแม่ผิดหวังในตัวผมครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนี้เน้นทำอะไรอยู่
นิชคุณ : ส่วนใหญ่ก็เรื่องสุขภาพ และอยากทำงานให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น เวลาผ่านไปรูปร่างหน้าตาเราก็เปลี่ยน ผมไม่ได้กังวลว่าจะมีรอยเหี่ยวย่น มันเป็นสิ่งที่คนเราห้ามไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไปตามวัย แต่ก็หวังว่าจะไม่มีข่าวคราวแย่ๆออกมาในช่วงระหว่างที่ผมโตขึ้น เพื่อที่จะได้ทำงานอีกสัก 10 ปีต่อไปนี้ ผมต้องคอยระวังสิ่งที่ทำตอนนี้ครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณกังวลมากเกินไป อีกสิบปีก็อายุ 35 ตอนนั้นอาจจะยิ่งดังมากขึ้น
นิชคุณ : ก็ อาจจะเป็นได้ครับ แต่ผมไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันเป็นสิ่งสำคัญที่ผมต้องไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ในตัวผม ผมอยากให้คนมีความรู้สึกที่ดีต่อผมครับ
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วอยากมีภาพลักษณ์ด้านไหนในอนาคต
นิชคุณ : อืม มม ผมอยากมีริ้วรอยบนใบหน้าอย่าง Jude Law และดูเท่และมีมาดสุขุมอ่อนโยนอย่าง George Clooney หรือคนที่ดูใจดีอย่างคุณพ่อของผม เป็นสามีที่ดี เป็นลูกชายที่ดี ผมแค่อยากเป็นคนดีครับ
ผู้สัมภาษณ์ : นั่นแสดงว่าคุณอยากจะได้แต่งงานภายใน 10 ปีข้างหน้านี้
นิชคุณ : แน่นอนที่สุดครับ
Eng-Thai : Offogato @2pmalways| special Thanks to Multivitamins for the helps!
*หมาย เหตุ คำแปลอ้างอิงจากคำแปลภาษาอังกฤษ แต่มีบางส่วนที่เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมจากคำแปลหน้าภาษาอังกฤษเพราะอ้าง อิงผู้แปลอีก1ท่านค่ะ
Tuesday, March 27 2012 Written by Offogato
English Ver. / Kor-Eng: Buckme@2pmalways | Scans : danjisoo's blog
DIORAMA
credit : http://2pmalways.com
หล่อ เท่ แถมยังอ่อนโยน แม้แต่นิชคุณก็ยังมีเรื่องกดดัน
ผู้สัมภาษณ์ : คนมักจะพูดถึงแต่รูปร่างหน้าตาของคุณ
นิชคุณ: ฮ่าฮ่า ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีแต่ผมก็อยากจะโชว์ด้านอื่นๆให้เห็น ในฐานะนักร้องโดยเฉพาะไอดอล ผมได้แต่โชว์ภาพลักษณ์ที่ไตร่ตรองระมัดระวังไว้ก่อนออกมา แต่ผมอยากจะพิสูจน์ให้เห็นว่าผมมีอะไรมากกว่าที่เห็น ผมจึงลองงานด้านการแสดงซึ่งสามารถให้ผมแสดงบทบาทต่างๆออกมาได้
ผู้สัมภาษณ์ : การเป็นไอดอลดูจะเป็นเรื่องที่น่าอึดอัด คงมีบางสิ่งที่ต้องเก็บเงียบเอาไว้
นิชคุณ: ใช่ครับ ในฐานะไอดอลคุณต้องคอยระวังสิ่งที่คุณพูดออกมา และต้องระวังการกระทำด้วย ก็คงรู้สึกอึดอัดเป็นธรรมดา ผมต้องการแสดงตัวตนที่เป็นของผม ความรู้สึกที่แท้จริง แต่สิ่งต่างๆเหล่านั้นก็เป็นเรื่องที่ทนได้ ผมจึงเฉยๆไป
ผู้สัมภาษณ์ : พอรู้สึกรำคาญใจ คุณต้องรู้ว่าวิธีไหนจะทำให้ความรู้สึกนั้นหายไปได้ดีที่สุดด้วย
นิชคุณ : ครับ แต่ผมไม่ใช่คนประเภทที่จะเก็บไว้ในใจ ผมจึงมองว่ามันเป็นงานเป็นสิ่งที่ผมต้องอดกลั้นไว้ ที่จริงผมห่วงอนาคตตัวเองมาก เพราะผมยังเด็กและยังเป็นที่สนใจ ผมจึงอยากทำงานให้เต็มที่แล้วค่อยสนุกทีหลัง นั่นคือสิ่งที่ผมคิดครับ
ผู้สัมภาษณ์ : โลกในอุดมคติของนิชคุณเป็นอย่างไร
นิชคุณ : ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับครอบครัว ถ้าคุณต้องการแต่งงานและมีลูกคุณจำเป็นต้องมีเงิน ดังนั้นผมจึงต้องการหาเงินไว้เยอะๆเพื่อที่ครอบครัวผมจะได้เป็นอยู่อย่าง สะดวกสบาย ผมอยากให้ครอบครัวผมมีความสุข พอผมคิดถึงสิ่งเหล่านี้อารมณ์ผมก็จะดีและทำให้ผมมีความสุขเมื่อได้ทำงาน
ผู้สัมภาษณ์ : ทำไมคุณไม่ค่อยพูดถึงเรื่องดนตรีนักในการสัมภาษณ์ต่างๆ
นิชคุณ : ที่ จริงตอนผมเป็นเด็กผมไม่เคยฝันอยากเป็นนักร้อง ผมขี้อายและไม่กล้าพูดในที่สาธารณะ การร้องเพลงจึงไม่เคยมีอยู่ในความคิดเลย แต่ผมได้มาอยู่กับ 2PM ตอนแรกผมด้อยกว่าคนอื่นทั้งหมด แต่เพราะผมรู้สึกละอายที่เป็นอย่างนั้นผมเลยตั้งใจอย่างหนักมากและเมื่อผม ได้เรียนรู้มากขึ้นความมั่นใจก็มากขึ้นตาม
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วส่วนใหญ่คุณฟังเพลงประเภทไหน
นิชคุณ : ผมไม่ค่อยฟังพวกเพลงฮิพฮอพ ผมมักจะฟังเพลงบัลลาดซึ้งๆ ช่วงนี้ผมชอบฟังเพลงของไมเคิล บูเบล่ เสียงของเขา "หวานซึ้ง" มาก ผมยังชอบเพลงแจ๊ส อย่างเพลง The Way You Look Tonigh ด้วยครับ ส่วนเพลงแด๊นซ์ ผมชอบเพลงของจัสติน ทิมเบอร์เลค? ผมชอบเพลงฟังสบายๆครับ
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วทำไมสาวๆชอบนิชคุณจัง?
นิชคุณ : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าฮ่าฮ่า อาจจะดูน่าขันไปหน่อยแต่เพราะชอบที่หน้าตาผมมั้งครับ? คงไม่ใช่เพราะผมพูดเกาหลีได้ดีหรือเพราะผมดูน่าสนใจเวลาออกรายการทีวี .... แต่ผมมั่นใจในตัวตนที่แท้จริงของผมมากกว่าหน้าตาที่มี ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายผมทำได้ทุกอย่างให้กับคนที่ผมชอบครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณเป็นประเภททุ่มสุดตัวหรือเปล่า?
นิชคุณ : ครับ ถ้าผมตกหลุมรักใคร ก็หมดใจเลยครับ
ผู้สัมภาษณ์ : เสี่ยงนะ
นิชคุณ : ที่จริงก็เหมือนกับเวลาทำงานครับ ผมจริงจังมากๆเมื่อถึงเวลาทำงาน
ผู้สัมภาษณ์ : จริงเหรอ? แต่เวลาออกทีวีคุณดูน่ารักจัง?
นิชคุณ : นิ ชคุณในทีวีกับนิชคุณจริงๆต่างกันนิดหน่อยครับ เวลาอยู่ในทีวี คุณต้องพูดเยอะเข้าไว้ แต่เพราะผมยังพูดเกาหลีได้ไม่เร็วนัก โดยเฉพาะเวลาออกรายการทางทีวีผมจึงออกท่าทางมือไม้โดยไม่รู้ตัว เหมือนใช้ท่าทางร่างกายประกอบการพูดเลยทำให้ดูน่ารัก และคนชอบให้ไอดอลดูน่ารักคิขุ หลายครั้งที่พิธีกรชอบให้ผมขยิบตาและทำหน้าน่ารัก แต่ผมไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมไม่ชอบทำตัวหน่อมแน๊ม ผมอยากให้เห็นว่าเท่ ดูแมนๆมากกว่า เพราะภาษาเกาหลีของผมยังไม่ดีผมเลยทำอะไรมากไม่ได้นอกจากแสดงออกทางท่าทาง ให้ดูน่ารักทางรายการทีวี
ผู้สัมภาษณ์ : คุณอายุ 25 แล้ว (ตามการนับของเกาหลี) ซึ่งอีก 3 ปีก็ถึงปีครบกำหนดเข้ากรมทหารของเกาหลี คุณรู้สึกเป็นแมนที่สุดตอนไหน
นิชคุณ : ตอนออกกำลังกายครับ ผมจริงจังกับการเล่นกีฬา ตอนรายการ We Got Married ผมโชว์ให้เห็นแต่ด้านอ่อนหวานซึ่งน่าเสียดายครับ ถ้าผมได้โชว์ด้านชอบการแข่งขันเอาจริงเอาจังออกมาได้ คนคงได้มองผมต่างออกไปบ้าง
ผู้สัมภาษณ์ : จริงเลย คุณดูอ่อนโยน เลยเป็นการยากที่จะนึกถึงอีกด้านของคุณ ด้านอ่อนโยนบางทีอาจดูน่าเบื่อได้
นิชคุณ : แล้ว ก็เสี่ยงมากด้วยครับ ผมต้องคอยระวังคำพูดและการกระทำของผม ในทางตรงกันข้ามแทคยอนสามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นของเขาได้ ตอนแรกผมพูดไม่ค่อยได้เลยค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับเพื่อนในวงคนอื่นๆ ผมเลยดูใจดีกว่าแต่จะให้เปลี่ยนบุคลิกแบบฉับพลับก็คงยาก ผมจึงอยากเปลี่ยนทีละนิด อาศัยงานด้านการแสดงที่จะแสดงให้เห็นอีกด้านของผมออกมา
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วบทแบบไหนที่อยากจะเล่น?
นิชคุณ : ผมอยากจะเล่นบทร้ายๆ ไม่เชิงเป็นตัวโกงแต่บทแบบ bad boy หรือ playboy คงจะสนุกดีถ้าผมได้แสดงบทอย่างวอนบินในเรื่อง Ahjussi ครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ได้ยินมาว่าค่อนข้างยากนะ
นิชคุณ : ฮ่าฮ่า จริงเหรอครับ
ผู้สัมภาษณ์ : รู้สึกว่าการได้อยู่คนเดียวในช่วงอายุยี่สิบกว่าๆสบายกว่าไหม
นิชคุณ : ผมชอบที่ได้อยู่กับครอบครัวมากกว่าครับ ถ้าผมได้กลับประเทศไทยเพื่อไปทำงาน คุณแม่จะเป็นคนมาหาผม ผมก็ได้รับประทานอาหารกับครอบครัวหลังจากเสร็จงาน จึงดูเหมือนว่าผมได้เจอครอบครัวบ่อยกว่าเพื่อนคนอื่นๆ พ่อแม่พวกเขาอยู่ที่เกาหลีแต่ไม่สามารถมาหาพวกเขาได้บ่อย แต่เพราะผมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองพอผมกลับไปไทยทีพ่อแม่ก็จะมาหาผมครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าสมาชิกคนอื่นๆในวง คงเพราะคุณอยู่ด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก คุณมีความคิดเป็นผู้ใหญ่อย่างนี้มาก่อนหรือเปล่า?
นิชคุณ : ตอน เด็กๆผมไม่ค่อยเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่และสร้างปัญหาปวดหัวให้พวกท่าน ถ้าทานบอกให้ทำอะไรผมก็ไม่ทำ แต่พออายุ 12 ปี ผมได้ไปเรียนที่นิวซีแลนด์อยู่โรงเรียนประจำ เมื่อต้องมาอยู่ตัวคนเดียวที่ต่างบ้านต่างเมืองผมก็ทำอะไรผิดๆหลายอย่าง พอได้โตขึ้นผมก็เข้าใจว่าสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เคยสอนไว้มันถูกทุกอย่างเลย ครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ในวันๆคุณมีวิธีผ่อนคลายอย่างไร
นิชคุณ : ผม เล่นเกมในไอแพด อ่านหนังสือ ตอนนี้ผมอ่านหนังสือชื่อว่า Life ของ Paulo Coelho ครับ เป็นหนังสือที่ดีมาก สั้นไปหน่อยแต่ก็ดีมากๆ ทำให้คิดตามได้เยอะ อ่านแล้วช่วยฝึกความคิดมากกว่าได้อ่านธรรมดาครับ
ผู้สัมภาษณ์ : มีบางทีที่รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นบ้างไหม?
นิชคุณ : บางครั้งที่ผมทำงาน ผมจะตั้งใจเกินร้อยเพราะผมเป็นคนจริงจังอยู่แล้ว พอมาคิดถึงทีมงานคนอื่นๆ พวกเขาเหนื่อยมากกว่าเรา ถ้าเรามัวแต่เล่นสนุกมากไปพวกเขาก็จะเหนื่อยมากขึ้น ผมจึงต้องตั้งใจในหน้าที่ของผมและทำให้งานเสร็จไวๆเพื่อที่พวกทีมงานจะได้ทำ งานเสร็จเร็วขึ้นด้วยเช่นกันครับ
ผู้สัมภาษณ์ : รู้สึกต้องรับผิดชอบต่อคนอื่นบ้างไหม?
นิชคุณ : ตอนแรกผมเคยสนุกกับการทำงานด้วยตัวเองคนเดียว แต่ตอนนี้ผมนึกถึงคนอื่นด้วย เราจะเล่นกันแต่พอสมควร เราบอกกันเองว่าเราต้องสุภาพและพร้อมทำงานอย่างตั้งใจเสมอครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณดูเหมือนจะยึดมั่นในหลักการของตัว
นิชคุณ : มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ เพราะผมเป็นคนที่จริงจังกับงาน เวลาถ่ายทำงานโฆษณา พวกไดเร็คเตอร์ต้องจ่ายเงินมากมายเพื่อจ้างพวกเรา เราจึงต้องทำตัวให้สมกับที่เค้าจ้าง ต้องทำงานให้หนัก มันไม่ใช่แค่เรื่องเงินแต่เพราะเขาไว้ใจในตัวเรา เราต้องตอบแทนให้สมกับที่เขาเชื่อมั่นในเราครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณดูเป็นคนซื่อๆอย่างที่เราคาดไว้ เคยโกหกหรือเคยทำอะไรหลบๆซ่อนๆบ้างไหม
นิชคุณ : อืมมมม เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยครับ ตอนเด็กๆทำบ่อยเพราะอยู่ห่างจากพ่อแม่ จริงๆเคยทำอะไรหลายๆอย่าง ฮ่าฮ่า ตอนอยู่ที่โรงเรียนถ้าไม่เข้าเรียนต้องส่งจดหมายอธิบายว่าทำไมถึงขาดเรียน และต้องมีลายเซ็นพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ผมก็จะเป็นคนเซ็นเองและให้เพื่อนส่งครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่
นิชคุณ : ฮ่าฮ่าฮ่า ก็มีเรื่องอื่นๆด้วยครับ แต่ผมไม่ใช่เด็กไม่ดีอะไร ผมไม่อยากทำอะไรให้พ่อแม่ผิดหวังในตัวผมครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนี้เน้นทำอะไรอยู่
นิชคุณ : ส่วนใหญ่ก็เรื่องสุขภาพ และอยากทำงานให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น เวลาผ่านไปรูปร่างหน้าตาเราก็เปลี่ยน ผมไม่ได้กังวลว่าจะมีรอยเหี่ยวย่น มันเป็นสิ่งที่คนเราห้ามไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไปตามวัย แต่ก็หวังว่าจะไม่มีข่าวคราวแย่ๆออกมาในช่วงระหว่างที่ผมโตขึ้น เพื่อที่จะได้ทำงานอีกสัก 10 ปีต่อไปนี้ ผมต้องคอยระวังสิ่งที่ทำตอนนี้ครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณกังวลมากเกินไป อีกสิบปีก็อายุ 35 ตอนนั้นอาจจะยิ่งดังมากขึ้น
นิชคุณ : ก็ อาจจะเป็นได้ครับ แต่ผมไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันเป็นสิ่งสำคัญที่ผมต้องไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ในตัวผม ผมอยากให้คนมีความรู้สึกที่ดีต่อผมครับ
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วอยากมีภาพลักษณ์ด้านไหนในอนาคต
นิชคุณ : อืม มม ผมอยากมีริ้วรอยบนใบหน้าอย่าง Jude Law และดูเท่และมีมาดสุขุมอ่อนโยนอย่าง George Clooney หรือคนที่ดูใจดีอย่างคุณพ่อของผม เป็นสามีที่ดี เป็นลูกชายที่ดี ผมแค่อยากเป็นคนดีครับ
ผู้สัมภาษณ์ : นั่นแสดงว่าคุณอยากจะได้แต่งงานภายใน 10 ปีข้างหน้านี้
นิชคุณ : แน่นอนที่สุดครับ
Eng-Thai : Offogato @2pmalways| special Thanks to Multivitamins for the helps!
*หมาย เหตุ คำแปลอ้างอิงจากคำแปลภาษาอังกฤษ แต่มีบางส่วนที่เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมจากคำแปลหน้าภาษาอังกฤษเพราะอ้าง อิงผู้แปลอีก1ท่านค่ะ
HJM : Nichkhun
HJM : Nichkhun
Tuesday, March 27 2012 Written by Cassina
[Hottest Japan Mobile Staff Blog]
Good morning everyone!
Eveyone who live in eastern area, did you check today's newspaper yet?
It's an advertisement for our additional concert at Yokohama Arena. please don't miss!
Also, check out Nichkhun's movie too!
Jpn-Eng: sakiHa @2pmalways
วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555
[Pics] Nichkhun and Thai Prime Minister for the Thai PM Korea Roadshow
[Pics] Nichkhun and Thai Prime Minister for the Thai PM Korea Roadshow
Credits : as tagged&facebook.com/Y.Shinawatra
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)