[บทสัมภาษณ์] Arena Homme - นิชคุณ
Tuesday, March 27 2012 Written by Offogato
English Ver. / Kor-Eng: Buckme@2pmalways | Scans : danjisoo's blog
DIORAMA
credit : http://2pmalways.com
หล่อ เท่ แถมยังอ่อนโยน แม้แต่นิชคุณก็ยังมีเรื่องกดดัน
ผู้สัมภาษณ์ : คนมักจะพูดถึงแต่รูปร่างหน้าตาของคุณ
นิชคุณ: ฮ่าฮ่า ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีแต่ผมก็อยากจะโชว์ด้านอื่นๆให้เห็น ในฐานะนักร้องโดยเฉพาะไอดอล ผมได้แต่โชว์ภาพลักษณ์ที่ไตร่ตรองระมัดระวังไว้ก่อนออกมา แต่ผมอยากจะพิสูจน์ให้เห็นว่าผมมีอะไรมากกว่าที่เห็น ผมจึงลองงานด้านการแสดงซึ่งสามารถให้ผมแสดงบทบาทต่างๆออกมาได้
ผู้สัมภาษณ์ : การเป็นไอดอลดูจะเป็นเรื่องที่น่าอึดอัด คงมีบางสิ่งที่ต้องเก็บเงียบเอาไว้
นิชคุณ: ใช่ครับ ในฐานะไอดอลคุณต้องคอยระวังสิ่งที่คุณพูดออกมา และต้องระวังการกระทำด้วย ก็คงรู้สึกอึดอัดเป็นธรรมดา ผมต้องการแสดงตัวตนที่เป็นของผม ความรู้สึกที่แท้จริง แต่สิ่งต่างๆเหล่านั้นก็เป็นเรื่องที่ทนได้ ผมจึงเฉยๆไป
ผู้สัมภาษณ์ : พอรู้สึกรำคาญใจ คุณต้องรู้ว่าวิธีไหนจะทำให้ความรู้สึกนั้นหายไปได้ดีที่สุดด้วย
นิชคุณ : ครับ แต่ผมไม่ใช่คนประเภทที่จะเก็บไว้ในใจ ผมจึงมองว่ามันเป็นงานเป็นสิ่งที่ผมต้องอดกลั้นไว้ ที่จริงผมห่วงอนาคตตัวเองมาก เพราะผมยังเด็กและยังเป็นที่สนใจ ผมจึงอยากทำงานให้เต็มที่แล้วค่อยสนุกทีหลัง นั่นคือสิ่งที่ผมคิดครับ
ผู้สัมภาษณ์ : โลกในอุดมคติของนิชคุณเป็นอย่างไร
นิชคุณ : ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับครอบครัว ถ้าคุณต้องการแต่งงานและมีลูกคุณจำเป็นต้องมีเงิน ดังนั้นผมจึงต้องการหาเงินไว้เยอะๆเพื่อที่ครอบครัวผมจะได้เป็นอยู่อย่าง สะดวกสบาย ผมอยากให้ครอบครัวผมมีความสุข พอผมคิดถึงสิ่งเหล่านี้อารมณ์ผมก็จะดีและทำให้ผมมีความสุขเมื่อได้ทำงาน
ผู้สัมภาษณ์ : ทำไมคุณไม่ค่อยพูดถึงเรื่องดนตรีนักในการสัมภาษณ์ต่างๆ
นิชคุณ : ที่ จริงตอนผมเป็นเด็กผมไม่เคยฝันอยากเป็นนักร้อง ผมขี้อายและไม่กล้าพูดในที่สาธารณะ การร้องเพลงจึงไม่เคยมีอยู่ในความคิดเลย แต่ผมได้มาอยู่กับ 2PM ตอนแรกผมด้อยกว่าคนอื่นทั้งหมด แต่เพราะผมรู้สึกละอายที่เป็นอย่างนั้นผมเลยตั้งใจอย่างหนักมากและเมื่อผม ได้เรียนรู้มากขึ้นความมั่นใจก็มากขึ้นตาม
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วส่วนใหญ่คุณฟังเพลงประเภทไหน
นิชคุณ : ผมไม่ค่อยฟังพวกเพลงฮิพฮอพ ผมมักจะฟังเพลงบัลลาดซึ้งๆ ช่วงนี้ผมชอบฟังเพลงของไมเคิล บูเบล่ เสียงของเขา "หวานซึ้ง" มาก ผมยังชอบเพลงแจ๊ส อย่างเพลง The Way You Look Tonigh ด้วยครับ ส่วนเพลงแด๊นซ์ ผมชอบเพลงของจัสติน ทิมเบอร์เลค? ผมชอบเพลงฟังสบายๆครับ
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วทำไมสาวๆชอบนิชคุณจัง?
นิชคุณ : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าฮ่าฮ่า อาจจะดูน่าขันไปหน่อยแต่เพราะชอบที่หน้าตาผมมั้งครับ? คงไม่ใช่เพราะผมพูดเกาหลีได้ดีหรือเพราะผมดูน่าสนใจเวลาออกรายการทีวี .... แต่ผมมั่นใจในตัวตนที่แท้จริงของผมมากกว่าหน้าตาที่มี ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายผมทำได้ทุกอย่างให้กับคนที่ผมชอบครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณเป็นประเภททุ่มสุดตัวหรือเปล่า?
นิชคุณ : ครับ ถ้าผมตกหลุมรักใคร ก็หมดใจเลยครับ
ผู้สัมภาษณ์ : เสี่ยงนะ
นิชคุณ : ที่จริงก็เหมือนกับเวลาทำงานครับ ผมจริงจังมากๆเมื่อถึงเวลาทำงาน
ผู้สัมภาษณ์ : จริงเหรอ? แต่เวลาออกทีวีคุณดูน่ารักจัง?
นิชคุณ : นิ ชคุณในทีวีกับนิชคุณจริงๆต่างกันนิดหน่อยครับ เวลาอยู่ในทีวี คุณต้องพูดเยอะเข้าไว้ แต่เพราะผมยังพูดเกาหลีได้ไม่เร็วนัก โดยเฉพาะเวลาออกรายการทางทีวีผมจึงออกท่าทางมือไม้โดยไม่รู้ตัว เหมือนใช้ท่าทางร่างกายประกอบการพูดเลยทำให้ดูน่ารัก และคนชอบให้ไอดอลดูน่ารักคิขุ หลายครั้งที่พิธีกรชอบให้ผมขยิบตาและทำหน้าน่ารัก แต่ผมไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผมไม่ชอบทำตัวหน่อมแน๊ม ผมอยากให้เห็นว่าเท่ ดูแมนๆมากกว่า เพราะภาษาเกาหลีของผมยังไม่ดีผมเลยทำอะไรมากไม่ได้นอกจากแสดงออกทางท่าทาง ให้ดูน่ารักทางรายการทีวี
ผู้สัมภาษณ์ : คุณอายุ 25 แล้ว (ตามการนับของเกาหลี) ซึ่งอีก 3 ปีก็ถึงปีครบกำหนดเข้ากรมทหารของเกาหลี คุณรู้สึกเป็นแมนที่สุดตอนไหน
นิชคุณ : ตอนออกกำลังกายครับ ผมจริงจังกับการเล่นกีฬา ตอนรายการ We Got Married ผมโชว์ให้เห็นแต่ด้านอ่อนหวานซึ่งน่าเสียดายครับ ถ้าผมได้โชว์ด้านชอบการแข่งขันเอาจริงเอาจังออกมาได้ คนคงได้มองผมต่างออกไปบ้าง
ผู้สัมภาษณ์ : จริงเลย คุณดูอ่อนโยน เลยเป็นการยากที่จะนึกถึงอีกด้านของคุณ ด้านอ่อนโยนบางทีอาจดูน่าเบื่อได้
นิชคุณ : แล้ว ก็เสี่ยงมากด้วยครับ ผมต้องคอยระวังคำพูดและการกระทำของผม ในทางตรงกันข้ามแทคยอนสามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นของเขาได้ ตอนแรกผมพูดไม่ค่อยได้เลยค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับเพื่อนในวงคนอื่นๆ ผมเลยดูใจดีกว่าแต่จะให้เปลี่ยนบุคลิกแบบฉับพลับก็คงยาก ผมจึงอยากเปลี่ยนทีละนิด อาศัยงานด้านการแสดงที่จะแสดงให้เห็นอีกด้านของผมออกมา
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วบทแบบไหนที่อยากจะเล่น?
นิชคุณ : ผมอยากจะเล่นบทร้ายๆ ไม่เชิงเป็นตัวโกงแต่บทแบบ bad boy หรือ playboy คงจะสนุกดีถ้าผมได้แสดงบทอย่างวอนบินในเรื่อง Ahjussi ครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ได้ยินมาว่าค่อนข้างยากนะ
นิชคุณ : ฮ่าฮ่า จริงเหรอครับ
ผู้สัมภาษณ์ : รู้สึกว่าการได้อยู่คนเดียวในช่วงอายุยี่สิบกว่าๆสบายกว่าไหม
นิชคุณ : ผมชอบที่ได้อยู่กับครอบครัวมากกว่าครับ ถ้าผมได้กลับประเทศไทยเพื่อไปทำงาน คุณแม่จะเป็นคนมาหาผม ผมก็ได้รับประทานอาหารกับครอบครัวหลังจากเสร็จงาน จึงดูเหมือนว่าผมได้เจอครอบครัวบ่อยกว่าเพื่อนคนอื่นๆ พ่อแม่พวกเขาอยู่ที่เกาหลีแต่ไม่สามารถมาหาพวกเขาได้บ่อย แต่เพราะผมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองพอผมกลับไปไทยทีพ่อแม่ก็จะมาหาผมครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าสมาชิกคนอื่นๆในวง คงเพราะคุณอยู่ด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก คุณมีความคิดเป็นผู้ใหญ่อย่างนี้มาก่อนหรือเปล่า?
นิชคุณ : ตอน เด็กๆผมไม่ค่อยเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่และสร้างปัญหาปวดหัวให้พวกท่าน ถ้าทานบอกให้ทำอะไรผมก็ไม่ทำ แต่พออายุ 12 ปี ผมได้ไปเรียนที่นิวซีแลนด์อยู่โรงเรียนประจำ เมื่อต้องมาอยู่ตัวคนเดียวที่ต่างบ้านต่างเมืองผมก็ทำอะไรผิดๆหลายอย่าง พอได้โตขึ้นผมก็เข้าใจว่าสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เคยสอนไว้มันถูกทุกอย่างเลย ครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ในวันๆคุณมีวิธีผ่อนคลายอย่างไร
นิชคุณ : ผม เล่นเกมในไอแพด อ่านหนังสือ ตอนนี้ผมอ่านหนังสือชื่อว่า Life ของ Paulo Coelho ครับ เป็นหนังสือที่ดีมาก สั้นไปหน่อยแต่ก็ดีมากๆ ทำให้คิดตามได้เยอะ อ่านแล้วช่วยฝึกความคิดมากกว่าได้อ่านธรรมดาครับ
ผู้สัมภาษณ์ : มีบางทีที่รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นบ้างไหม?
นิชคุณ : บางครั้งที่ผมทำงาน ผมจะตั้งใจเกินร้อยเพราะผมเป็นคนจริงจังอยู่แล้ว พอมาคิดถึงทีมงานคนอื่นๆ พวกเขาเหนื่อยมากกว่าเรา ถ้าเรามัวแต่เล่นสนุกมากไปพวกเขาก็จะเหนื่อยมากขึ้น ผมจึงต้องตั้งใจในหน้าที่ของผมและทำให้งานเสร็จไวๆเพื่อที่พวกทีมงานจะได้ทำ งานเสร็จเร็วขึ้นด้วยเช่นกันครับ
ผู้สัมภาษณ์ : รู้สึกต้องรับผิดชอบต่อคนอื่นบ้างไหม?
นิชคุณ : ตอนแรกผมเคยสนุกกับการทำงานด้วยตัวเองคนเดียว แต่ตอนนี้ผมนึกถึงคนอื่นด้วย เราจะเล่นกันแต่พอสมควร เราบอกกันเองว่าเราต้องสุภาพและพร้อมทำงานอย่างตั้งใจเสมอครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณดูเหมือนจะยึดมั่นในหลักการของตัว
นิชคุณ : มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ เพราะผมเป็นคนที่จริงจังกับงาน เวลาถ่ายทำงานโฆษณา พวกไดเร็คเตอร์ต้องจ่ายเงินมากมายเพื่อจ้างพวกเรา เราจึงต้องทำตัวให้สมกับที่เค้าจ้าง ต้องทำงานให้หนัก มันไม่ใช่แค่เรื่องเงินแต่เพราะเขาไว้ใจในตัวเรา เราต้องตอบแทนให้สมกับที่เขาเชื่อมั่นในเราครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณดูเป็นคนซื่อๆอย่างที่เราคาดไว้ เคยโกหกหรือเคยทำอะไรหลบๆซ่อนๆบ้างไหม
นิชคุณ : อืมมมม เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยครับ ตอนเด็กๆทำบ่อยเพราะอยู่ห่างจากพ่อแม่ จริงๆเคยทำอะไรหลายๆอย่าง ฮ่าฮ่า ตอนอยู่ที่โรงเรียนถ้าไม่เข้าเรียนต้องส่งจดหมายอธิบายว่าทำไมถึงขาดเรียน และต้องมีลายเซ็นพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ผมก็จะเป็นคนเซ็นเองและให้เพื่อนส่งครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่
นิชคุณ : ฮ่าฮ่าฮ่า ก็มีเรื่องอื่นๆด้วยครับ แต่ผมไม่ใช่เด็กไม่ดีอะไร ผมไม่อยากทำอะไรให้พ่อแม่ผิดหวังในตัวผมครับ
ผู้สัมภาษณ์ : ตอนนี้เน้นทำอะไรอยู่
นิชคุณ : ส่วนใหญ่ก็เรื่องสุขภาพ และอยากทำงานให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น เวลาผ่านไปรูปร่างหน้าตาเราก็เปลี่ยน ผมไม่ได้กังวลว่าจะมีรอยเหี่ยวย่น มันเป็นสิ่งที่คนเราห้ามไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไปตามวัย แต่ก็หวังว่าจะไม่มีข่าวคราวแย่ๆออกมาในช่วงระหว่างที่ผมโตขึ้น เพื่อที่จะได้ทำงานอีกสัก 10 ปีต่อไปนี้ ผมต้องคอยระวังสิ่งที่ทำตอนนี้ครับ
ผู้สัมภาษณ์ : คุณกังวลมากเกินไป อีกสิบปีก็อายุ 35 ตอนนั้นอาจจะยิ่งดังมากขึ้น
นิชคุณ : ก็ อาจจะเป็นได้ครับ แต่ผมไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันเป็นสิ่งสำคัญที่ผมต้องไม่ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่ในตัวผม ผมอยากให้คนมีความรู้สึกที่ดีต่อผมครับ
ผู้สัมภาษณ์ : แล้วอยากมีภาพลักษณ์ด้านไหนในอนาคต
นิชคุณ : อืม มม ผมอยากมีริ้วรอยบนใบหน้าอย่าง Jude Law และดูเท่และมีมาดสุขุมอ่อนโยนอย่าง George Clooney หรือคนที่ดูใจดีอย่างคุณพ่อของผม เป็นสามีที่ดี เป็นลูกชายที่ดี ผมแค่อยากเป็นคนดีครับ
ผู้สัมภาษณ์ : นั่นแสดงว่าคุณอยากจะได้แต่งงานภายใน 10 ปีข้างหน้านี้
นิชคุณ : แน่นอนที่สุดครับ
Eng-Thai : Offogato @2pmalways| special Thanks to Multivitamins for the helps!
*หมาย เหตุ คำแปลอ้างอิงจากคำแปลภาษาอังกฤษ แต่มีบางส่วนที่เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมจากคำแปลหน้าภาษาอังกฤษเพราะอ้าง อิงผู้แปลอีก1ท่านค่ะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น