[บทสัมภาษณ์]นิชคุณ หรเวชกุล ในนิตยสาร MANIFESTO ของประเทศฮ่องกง
Eng – Thai by pluhottest@welovekhun.com
manifesto:มีเสน่ห์และมีความมุ่งมั่น
เขาคือนักร้องแร็ปที่มีความมุ่งมั่น ประจำวงบอยแบนด์เกาหลี 2PM และหนุ่มไทย-จีนที่มีอายุ 24 ปีคนนี้ เป็นคนที่มีเสน่ห์มากที่สุดในกลุ่มก็ว่าได้ เนื่องจากเขามี: แฟนๆจำนวน 759,000 คนบนเฟสบุ๊ค, คนฟอโล่วเขาจำนวน 1.5 ล้านคนบนทวิตเตอร์, เว็บแฟนคลับที่ติดตามเขาคนเดียวอย่างนับไม่ถ้วน, และหุ่นขี้ผึ้ง Madame Tussauds ในประเทศไทย ส่วนสมาชิกคนอื่นๆในวงก็มีเสน่ห์เป็นของตัวเองเช่นกัน พวกเราคิดว่าแฟนๆผู้หญิงที่ชื่นชมเขาอาจจะอยากรู้ไว้: ซุปเปอร์สตาร์หน้าเด็กคนนี้ อาจจะมีทุกอย่างครบและเพรียบพร้อมที่จะแต่งงานแล้วก็ได้ คิคิ
MANIFESTO: คุณเกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีเชื้อสายไทย-จีน คุณคงมีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ บอกพวกเราหน่อยว่าชีวิตในวัยเด็กของคุณเป็นอย่างไร
นิชคุณ หรเวชกุล: ผมเกิดที่ลอสแอนเจลิส และก็ได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทยตอนผมอายุ 2 ขวบครับ ภาษาไทยเป็นภาษาแรกที่ผมได้เรียน และตอนผมอายุ 12 ขวบ ผมก็ได้ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศนิวซีแลนด์ครับ เพราะฉะนั้นมันก็เลยเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เพราะว่าตอนนั้นผมไม่รู้ภาษาอังกฤษเลย และผมก็ไปเรียนที่โรงเรียนประจำที่เข้มงวดมากครับ เรียนอยู่ประมาณสามปี จากนั้นผมก็ย้ายไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตอนผมอายุ 14 ปี ไปอยู่ประมาณเกือบๆห้าปีครับ และในที่สุดก็ย้ายมาที่ประเทศเกาหลีนี่แหละครับ
M: แล้วประเทศไหนคือบ้านสำหรับคุณ? ประเทศไทย, ประเทศสหรัฐอเมริกา, หรือประเทศเกาหลี?
นชค: บ้านผมคือทั้งสามประเทศเลยครับในตอนนี้ แน่นอนครับว่าผมต้องเรียกประเทศไทยว่าบ้าน เพราะว่าครอบครัวของผมยังอาศัยอยู่ที่นั่น และผมรู้สึกเหมือนผมอยู่ที่บ้านเวลาผมอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากว่าผมรู้สึกสบายใจเวลาใช้ภาษาอังกฤษที่นั่น ผมอาศัยอยู่ที่ประเทศเกาหลีมาได้หกปีแล้วครับ และตอนนี้ผมก็รู้สึกคุ้นเคยกับทุกอย่างของประเทศนี้ – อาหาร, ผู้คน, ประเพณี, และวัฒนธรรม – เพราะฉะนั้นผมก็เลยเรียกเกาหลีว่าบ้านเช่นกันครับ
M: คุณเป็นนายแบบก่อนที่คุณจะมาเป็นนักร้อง อะไรที่ทำให้คุณอยากลองทำงานในวงการเพลง?
นชค: ผมไปดูคอนเสิร์ตเกาหลีที่แอลเอ และก็ได้มีแมวมองมาทาบทามผมที่นั่นครับ (บริษัทได้เชิญเขาไปออดิชั่นสำหรับ JYP Entertainment ซึ่งตอนนี้เป็นที่รู้จักกันในนามบริษัท JYP บริษัทนี้เป็นหนึ่งในบริษัทการบริหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลี) ตอนนั้นผมอายุแค่ 17 ปีเองครับ ผมไม่ได้มีความฝันที่จะมาเป็นนักร้องเลย เพราะว่าผมเป็นแค่เด็กขี้อายตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่ยังไม่สามารถพูดต่อหน้าผู้คน หรือยืนต่อหน้าเพื่อนในห้องได้เลย หลังจากนั้นทางบริษัทก็ไม่รู้ว่าจะให้ผมอยู่ในแผนกไหนดี พวกเขาก็เลยเริ่มจากนายแบบก่อน เพราะว่ายังไงถ้าจะเป็นศิลปิน ผมก็ต้องออกมาดูดีครับ ไม่นานนัก พวกเขาก็ฝึกให้ผมร้องเพลง เต้น และพูดภาษาเกาหลี พร้อมทั้งเรียนแอ็คติ้งควบคู่ไปด้วย และแล้วผมก็ได้มาอยู่ในกลุ่มนี้ครับ
M: คุณคิดว่าคุณตัดสินใจถูกไหมที่ย้ายมาอยู่ที่ประเทศเกาหลี?
นชค: ตอนแรกที่ผมย้ายมาที่ประเทศเกาหลี ผมก็คิดว่านี่ไม่ใช่ที่ๆผมควรอยู่ เพราะว่าผมไม่รู้วิธีร้องหรือเต้นเลยครับ และผมก็ไม่ได้มีความสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมด้วย ผมไม่เคยฝันที่จะเป็นคนดัง เพราะว่าผมรักความเป็นส่วนตัวของผม ตอนนี้ผมก็ยังขี้อายอยู่ครับ ผมชอบที่จะอยู่ในโลกของผมครับ
M: ความอายอาจจะมาจากวัฒนธรรมไทยก็ได้
นชค: ใช่ครับ ผมถูกสอนมาให้เป็นคนเรียบร้อยครับ
M: คุณจำความรู้สึกตอนแรกที่เดินทางมาที่ประเทศเกาหลี และความรู้สึกที่ต้องปรับตัวได้ไหม?
นชค: การย้ายมาอยู่ที่ประเทศเกาหลีไม่ได้แย่นักครับ เพราะว่าตอนที่ย้ายมาผมก็อายุ 18 ปีแล้ว ตอนที่ย้ายไปที่ประเทศนิวซีแลนด์มากกว่าครับที่แย่ เพราะว่าตอนนั้นผมอายุแค่ 12 ขวบเอง และผมต้องพักอยู่ที่โรงเรียนประจำ ผมจำตอนที่ผมต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 ทุกเช้าได้ และผมจำตอนที่ผมต้องวิ่งเกือบๆห้ากิโลเมตรในตอนเช้าได้ ผมรู้สึกโดดเดี่ยวเป็นมากครับ ผมร้องไห้สามครั้งตอนที่ผมอยู่ที่นั่น เพราะว่าผมรู้สึกว่าอยากที่จะกลับบ้านเหลือเกิน แต่แล้วผมก็ชินกับมันครับ และตอนนี้ผมก็รู้สึกสนุกที่จะได้เดินทางไปประเทศต่างๆ และการที่จะได้เรียนรู้ภาษาไม่ใช่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป ส่วนที่ยากก็คือการที่จะต้องทำให้สถานที่นี้กลายเป็นบ้านของคุณ และการที่จะต้องทำให้ตัวเองรู้สึกสบายครับ แต่การที่จะไปถึงจุดนั้นได้ก็ค่อนข้างที่จะยาก ถ้าคุณไม่เปิดรับสิ่งใหม่ๆ เรียนรู้วิธีที่จะต้องอาศัยอยู่กับคนอื่น เรียนรู้วิธีการกิน การใช้ภาษา หรือแม้กระทั่งการทำตัวให้เหมือนกับคนของประเทศนั้นครับ…
M: ช่วงเวลาไหนที่เป็นช่วงเวลาท้าทายในวงการนี้?
นชค: ผมคิดว่าเป็นช่วงการฝึกซ้อม และการพยายามที่จะได้รับคำชมจากผู้อื่่นครับ แน่นอนว่าผมไม่ได้มีพรสวรรค์ในด้านการร้องเพลง หรือการเต้น ผมแค่อยากให้คนรู้ว้าผมกำลังพยายามอย่างหนัก และผมก็ไม่ได้ทำตรงนี้เพียงเพราะแค่เรื่องเงินนะครับ ผมพยายามที่จะสร้างอนาคตที่มั่นคง ผมอยากที่จะพิสูจน์ว่าถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะยังไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ผมก็จะเก่งให้ได้ครับ
M: คุณชอบเป็นนายแบบหรือนักร้องมากกว่ากัน?
นชค: ผมยังไม่ได้ทำงานด้านนายแบบเท่าไหร่นักนะครับ มันเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆก่อนที่ผมจะมาเป็นนักร้อง และตอนนี้ผมก็มีความสนใจทางด้านการแสดง ผมบอกกับบริษัทผมว่า เป้าหมายของผมคือการที่จะเป็นตัวแทนคนเอเชียไปดังในฮอลลีวู้ด และหลังจากที่ผมได้เริ่มทำงานในประเทศเกาหลี คนไทยก็เริ่มเรียกผมว่า ศิลปินเคป๊อป
M: แล้วเกี่ยวกับแฟนๆของคุณล่ะ? ได้เจอเรื่องอะไรแปลกๆที่อยากจะมาเล่าให้พวกเราฟังบ้างไหม?
นชค: ตอนที่พวกเราทัวร์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่พวกเราไปเป็นศิลปินเปิดให้กับวง Wonder Girls มีแฟนคนหนึ่งโยนชุดชั้นในของเธอมาบนเวที และมันก็มาติดอยู่กับเท้าผมพอดีระหว่างที่ผมกำลังเต้น และผมก็พยายามเขย่าๆเพื่อให้มันหลุดออกไปครับ มันเลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมาบนอินเตอร์เน็ตครับ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องที่แปลกที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับผมครับ
M: แล้วของขวัญจากแฟนๆที่แปลกที่สุดล่ะ?
นชค: แฟนๆผมไม่ค่อยให้อะไรแปลกๆกับผมหรอกครับ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้รับกุญแจที่ทำมาจากทอง มันไม่ได้แปลกแต่ผมก็แค่ไม่คุ้นเคยกับการได้รับของแบบนี้ และมันก็คงมีราคาค่อนข้างสูง ผมยังถามตัวเองเลยว่าผมทำถูกไหมที่รับมันไว้
M: คุณอยากที่จะประสบความสำเร็จในด้านไหนก่อนที่คุณจะอำลาวงการนี้ไป?
นชค: ผมอยากที่จะประสบความสำเร็จในขีวิต ไม่ใช่เพียงแค่ในอาชีพผมครับ ผมอยากที่จะเป็นคนดี เป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดี ในตอนนี้ผมก็อยากที่จะทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะสร้างรายได้ และสร้างอาชีพไปจนถึงจุดๆหนึ่งที่ผมจะสามารถแต่งงาน และมีครอบครัวได้โดยที่ไม่ต้องมีปัญหาทางด้านการเงินครับ ผมกำลังเตรียมชีวิตที่ดีให้กับครอบครัวของผม มันก็คงดีถ้าผมจะทำงานตรงนี้ต่อไปจนกว่าผมจะดังได้ แต่เป้าหมายหลักของผม ก็คือการมีครอบครัวครับ
M: ฟังดูเหมือนกับว่าคุณได้คิดเอาไว้อย่างจริงจังแล้ว คุณวางแผนไว้หรือยังว่าคุณจะแต่งงานตอนอายุเท่าไหร่?
นชค: ผมคิดว่า 10 ปีต่อจากนี้อาจจะสายเกินไปสำหรับผม ผมไม่แน่ใจครับ ผมคงต้องดูสถานการณ์ก่อน ผมอาจจะแต่งงานตอนผมอายุ 31 หรือ 32 ปี? ผมไม่อยากที่จะให้มีช่องว่างเรื่องอายุที่ใหญ่เกินไประหว่างผมกับลูกน่ะครับ
M: มาเปลี่ยนหัวข้อแล้วมาพูดเรื่องแฟชั่นกันดีกว่า อะไรคือสไตล์ของคุณ?
นชค: ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่มีสไตล์ที่ดี เพราะว่าผมไม่ชอบแต่งอะไรเยอะๆ ผมคิดว่ามันก็แล้วแต่คนว่าคุณจะชอบแต่งแบบไหน สำหรับผม สไตล์ของผมจะเรียกว่า Californian ก็ได้นะครับ ที่ California คนทั่วไปก็จะใส่ยีนส์แล้วก็เสื้อฮู้ด – ผมก็จะใส่เสื้อ แล้วก็เสื้อฮู้ดทับ แล้วก็เดินออกจากบ้านไปอย่างนั้นแหละครับ
M: 2PM สวมใส่เสื้อผ้าหลากหลายสไตล์สำหรับมิวสิควิดีโอ และการถ่ายแบบ มีสไตล์ไหนที่คุณเคยใส่มา แล้วอยากจะให้กลายเป็นสไตล์ของตัวเองบ้างไหม หรือว่าสไตล์เหล่านี้ก็แค่สำหรับการทำงานเท่านั้น?
นชค: สำหรับผมและสำหรับสมาชิกบางคน ก็คงเป็นแค่ภาพลักษณ์สำหรับการแสดงเท่านั้นครับ แต่ก็มีบางคนที่ชอบแฟชั่นจริงๆ พวกเขาก็จะเรียนรู้สไตล์จากที่คนอื่นๆใส่บนเวทีประกาศรางวัลหรือเวทีอื่นๆ ผมไม่ช็อปปิ้งครับ เพราะว่าถ้าผมช็อปแล้วผมจะหยุดไม่ได้
M: แล้วคุณไม่ต้องใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดเวลาออกไปในที่สาธารณะหรือ?
นชค: ผมชอบที่จะใส่แว่นตาครับ แว่นตาแบบธรรมดานะครับ ผมก็จะเอาเลนส์ออก ผมแค่ชอบที่มันสามารถปกปิดหน้าผมได้ และด้วยเหตุผลบางอย่าง มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจที่จะออกไปข้างนอก ผมไม่ทราบว่าทำไม ผมแค่รู้สึกแบบนั้นน่ะครับ
M: สุดท้ายแล้ว เนื่องจากคุณได้สวมใส่เสื้อผ้ายี่ห้อ Dior Homme สำหรับการถ่ายแบบครั้งนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่อยู่?
นชค: มันหรูหรามากครับ มันเป็นอะไรที่ “ผู้ใหญ่” จะใส่กัน ถ้านี่เป็นรถ มันก็คงจะเป็นไม่ Ferrari ก็ Lamborghini ครับ – มันให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ถ้าคุณอยากรู้สึกหรูหราและดูดี คุณก็ควรที่จะเลือกสวมใส่เสื้อผ้ายี่ห้อนี้ครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น